วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การกำจัดไฟล์ขยะและฟื้นฟูการทำงานคอมพิวเตอร์ Windows XP

วันนี้เราจะมาพูดถึงไฟล์ขยะในคอมพิวเตอร์กันครับ ซึ่งผมก็คิดว่าส่วนใหญ่มักมีคอมพิวเตอร์ใช้กันเกือบทุกคน เเต่ก็เเค่ใช้เป็นเท่านั้นเเละบางคนยังไม่รู้ว่าในเครื่องที่คุณกำลังใช้มีไฟล์ขยะที่ไม่จำเป็นอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้าลงด้วย
วันนี้ผมจึงมีโปรแกรมฟรีแวร์ที่ใช้ในการกำจัดไฟล์ขยะทั้งประวัติการเข้าใช้อินเตอร์เน็ต เเละโปรแกรมที่เคยใช้งานเเต่ยังฝังไฟล์อยู่ในเครื่องและวิธีลบที่ทุกคนสามารถทำได้โดยไม่ยากเลยครับ
วิธีเเรกก็จะเป็นวิธีลบที่ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมครับ คือคลิ้กที่ปุ่ม start > run > พิมพ์ลงช่องว่าง %temp% > OK จากนั้นก็ลบไฟล์ที่มีอยู่ทั้งหมดในนั้นเลยครับ ซึ่งวิธีนี้เป็นการช่วยลบไวรัสไปในตัวด้วยครับ แต่ต้องปิดโปรแกรมอื่นๆให้หมดก่อนนะครับเเล้วค่อยลบ หากเราลบเเล้วไฟล์ก็จะย้ายไปอยู่ที่ recycle bin
ก็เข้าไปลบต่ออีกทีครับ หรือถ้าไม่ต้องการเสียเวลาก็กด shift + delete เลยครับ
วิธีที่สองคือการใช้โปรแกรมกำจัดไฟล์ขยะครับ ซึ่งมีอยู่หลายโปรแกรมแต่ที่ผมจะนำมาเเจกวันนี้เป็นฟรีเเวร์ครับ ลองเอาไปใช้กันดูครับ

c cleaner

ต่อมาเป็นวิธีฟื้อนฟูเครื่องนะครับ ซึ่งควรมีการทำประมาณ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง เพื่อฟื้นฟูการทำงานคับ หากเครื่องเริ่มอืด ให้ใช้วิธีนี้ร่วมด้วยครับ โดยให้เราเข้าไปเช็คดูที่ start > all program > accessories > system tool > disk defragmenter เมื่อเข้าไปแล้วให้คลิ้กที่ ไดร้ แต่ละไดร้ แล้วคลิ้ก analyze ดูว่าเครื่องต้องการให้ฟื้นฟูไหม ถ้าเป็น you should defragment this volume ก็ให้คลิ้กที่ defragment รอจนเสร็จเเล้วไปทำเช็คที่ไดร์อื่นต่อ หากเป็น do you not need to defragment disk volume ก็ไม่ต้องทำต่อครับ
ก็แนะนำให้เช็คเรียงไดร้ทุกไดร้ครับ

นี่ก็เป็นการฟื้นฟูเเละกำจัดไฟล์ขยะที่ทุกคนสามารถทำได้ เเละยังเป็นผลดีที่ช่วยให้เครื่องของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลบส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปทำให้คอมของคุณเร็วขึ้นอีกทางหนึ่งครับ

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปัญหาการใช้อินเตอร์เน็ตของนักศึกษาที่อยู่หอพัก

วันนี้เป็นเรีื่องของการใช้เน็ตในหอพักกันครับ ซึ่งบางคนก็คงเคยเจอปัญหาการใช้ที่บางครั้งเราก็ใช้ไม่ได้
ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้เเละไม่ค่อยสนใจ ซึ่งเหมือนกับผมตอนช่วงเเรกๆที่นึกว่าเน็ตหอผมมันไม่ค่อยดี มีปํญหาบ่อย แต่พอได้ศึกษาไปเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ก็พึ่งรู้ว่า โดนตัดเน็ต
บางคนอาจจะไม่รู้จักการตัดเน็ตว่าคืออะไร การตัดเน็ต ก็คือการที่มีคนที่ใช้เน็ดเเบบสายเเลนร่วมกัน(คนที่ใช้เน็ตสายในหอพัก) มาตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตของห้องอื่นไม่ให้สามารถใช้เน็ตได้ สังเกตได้จาก หากเราเล่นเน็ตไม่ได้ เเต่ยังเห็นว่าไอคอนที่เครื่องมือด้านขวารูปเน็ตยังใช้ได้อยู่ลองดับเบิ้ลคลิ้กเข้าไปดูว่า อินเตอร์เน็ตมีการเดินอยู่หรือไม่ หรือมีความเร็วในการเชื่อมต่อมากหรือน้อย ถ้าไม่เดินเลยหรือเดินช้ามาก สันนิษฐานได้เลยว่า อาจโดนตัดเน็ต (net cut)
ปัจจุบันผมได้ติดตั้งโปรแกรมป้องกันการตัดเน็ตไว้ ซึ่งสามารถช่วยได้ทางหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับ 100% นะครับ
บางครั้งอาจไม่สามารถแก้การโดนตัดเน็ตได้ แต่สามรถป้องกันได้ประมาณ 50-60% ซึ่งสามารถดาวน์โหลดไปติดตั้งฟรีได้จากที่นี่ครับ
มีให้เลือกใช้ 2 โปรแกรมครับ
anti netcut
stop cut

เมื่อติดตั้งโปรแกรมเเล้วก็สามารถป้องกันการตัดเน็ตได้วิธีหนึ่งนะครับ ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ อีกอย่าง โปรแกรม stop cut อันที่สอง สามารถเช็กดูว่า ip ของห้องไหนที่เป็นคนตัดเน็ตได้ครับ
ตามพระราชบัญญัติการใช้อินเตอร์เน็ต ผู้ที่ตัดการทำงานของอินเตอร์เน็ตไม่ให้ผู้อื่นสามารถใช้งานได้
มีความผิดทางกฎหมาย สามารถจดรหัสไอพีที่เช็กได้ไว้เป็นหลักฐานครับ ผู้ที่ตัดเน็ตมีความผิดทางกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกและปรับครับ แต่เราเป็นนักศึกษาอยู่หอพักก็ไม่ต้องถึงขั้นเเจ้งความหรอกครับเดี๋ยวจะเป็นการทำลายอนาคตมันเปล่าๆ ทางที่ดีก็จดรหัสของคนที่ตัดมาเขียนติดไว้เตือนคนที่ตัด หรือเเจ้งทางหอพักให้ตรวจสอบเเละจัดการต่อไปครับ

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า

สวัสดีชาวบล็อกทุกท่านอีกครั้งหนึ่งครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้ากันครับ ซึ่งเเน่นอนว่ากีต้าร์ไฟฟ้าย่อมมีอุปกรณ์เสริมต่างๆมากมายกว่ากีต้าร์โปร่งเเน่นอน
อุปกรณ์อันดับต้นๆของการใช้กับกีต้าร์ไฟฟ้าก็มีหลักๆได้แก่สายเเจ็คและตู้แอมป์ ซึ่งมีความจำเป็นหากมีอุปกรณ์เสริมสองชิ้นนี้ก็สามารถเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าได้ เนื่องจากต้องมีการขยายเสียงเพื่อให้ได้เนื้อเสียงที่ชัดเจน
โดยในปัจจุบันได้มีการพัฒนาการผลิตแอมป์ให้มีคุณภาพเเละเนื้อเสียงที่หลากหลายมากขึ้น และยังช่วยลดปัญหาต่างๆที่มักเกิดขึ้นในการเล่น เช่นลดเสียงอันไม่พึงประสงค์ สัญญาณรบกวนต่างๆ เป็นต้น โดยการเล่นกีต้าร์จากแอมป์มักจะเกิดปัญหาเสียงจี่หรือเสียงรบกวน ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากการถ่ายเทระบบไฟฟ้า การเเก้ปัญหาดังกล่าวสามารถเเก้ไขได้โดยวิธีการต่อสายดิน สำหรับบ้านหรือที่ที่มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าเเบบมีสายดินก็มักจะไม่มีปัญหาเพราะเราสามารถเปลี่ยนหัวปลั้กไฟให้เป็นแบบสายดินได้ทันที ส่วนบ้านที่ไม่มีระบบสายดินก็สามารถนำสายไฟขนาดเล็กมาติดกับน้อตของแอมป์หรือจุดถ่ายไฟของแอมป์ โดยเราสามารถเช็กได้จาการใช้มือแตะน้อต หรือขั้วของลำโพงขณะเปิดเเอมป์เเล้วเกิดเสียงจี่ หากเเตะจุดไดจุดหนึ่งเเล้วทำให้เสียงจี่เงียบลง ก็ให้ใช้สายไฟขนาดเล็กที่เตรียมไว้เชื่อมกับจุดนั้นโดยสายต้องมีความยาวพอที่จะต่ออระหว่างเเอมป์กับพื้นดินได้ เมื่อต่อกับเเอมป์เเล้วปลายสายไฟอีกด้านก็ให้เรานมาพันกับเเกนเหล็กหรือตะปูเล่มใหญ่ๆครับ จากนั้นก็ตอกลงดินหรือฝังลงไปให้ลึกพอประมาณ โดยดินบริเวณนั้นจะต้องมีความชึ้นอยู่บ้าง เพราะความชึ้นจะเป็นตัวกระจายไฟได้ดีเมื่อเราเชื่อมสายดินเเล้ว เวลาเราเล่นก้จะไม่มีปัญหาเสียงจี่รบกวนใวจอีกครับ
Tuner เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตั้งสายกีต้าร์ให้มีเสียงที่ตรงไม่ผิดเพี้ยนซึ่งมีความสำคัญเเละจำเป็นมากสำหรับการเล่นบนเวที เนื่องจากการดีดเเล้วฟังอาจได้เสียงที่ไม่ตรงเท่ากับการใช้เครื่องช่วย
Effect Guitar เป็นอุปกรณ์ปรับเเต่งเสียงให้มีรูปแบบต่างๆ เเละน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งมีอยู่สองชนิดคือแบบก้อน และเเบบ muti effect ซึ่งเเบบก้อนจะมีเสียงเดียวต่อก้อน ส่วน muti จะมีหลายเสียงในแผงเดียว
แต่ก็มีข้อดีข้อเสียคนละอย่างกัน คือเเบบก้อนจะใช้ง่ายกว่า แต่เเบบแผงจะคุ้มค่่าเเละพกพาสะดวกกว่า
นี่ก็เป็นอุปกรณ์พื้นฐานในการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าที่ผมนำมาฝากนะครับ โอกาสหน้าผมจะมาเล่าเรื่องอะไรก็คอยติดตามบล็อกนี้ทุกสัปดาห์นะครับ สำหรับวันนี้
สวัสดีครับ

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เทคนิคการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า

สวัสดีครับ
วันนี้ก็ถึงช่วงของการใช้เทคนิคเริ่มต้นการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าเเล้วนะครับ ซึ่งการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าก็จะมีเทคนิคต่างๆมากมาย โดยผมจะเริ่มจากเทคนิคพื้นฐานที่นักกีต้าร์มือใหม่ควรรู้นะครับ
+ เทคนิคเเรก คือการดันสาย ซึ่งการดันสายคือการดันสายขึ้นหรือลงให้เสียงสูงขึ้น



+ การรูดสาย คือการกดสายจากเฟร็ตหนึ่งดีดสายเเล้วรูดนิ้วไปยังอีกเฟร็ต
+ การเล่นรัว คือการกดเฟร็ตด้วยนิวชี้ ดีดสาย เเล้วใช้นิ้วอื่นตบสายแล้วปล่อยด้วยความเร็วสูง
+ การเล่นคันโยก สำหรับกีต้าร์ที่มีคันโยกสามารถเล่นเทคนิคได้มากขึ้น โดยการดีดโน้ตเเล้วกดคันโยกลงเพื่อเปลี่ยนระดับเสียงให้ต่ำลง กีต้าร์บางรุ่นสามารโยกหลังให้เสียงสูงขึ้นได้
+ การเล่นฮาร์โมนิก เป็นการเล่นเทคนิคที่น่าสนใจ โดยการเอานิ้วเเตะสายเเบาๆ บริเวณ เฟร็ต 5 , 7 , 12
แล้วดีดสาย จะทำให้เกิดเสียงฮาร์โมนิกขึ้นมา ซึ่งเทคนิคนี้เราสามารถใช้คู่กับการเล่นคันโยกได้ ซึ่งจะทำให้เราได้เสียงที่โดดเด่นมากขึ้น





นี่ก็เป็นเทคนิคต่างๆของการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าครับ เทคนิคบางอย่างสามารถเล่นกับกีต้าร์โปร่งได้ครับ ยังไงก็ลองเอาไปฝึกดูนะครับ คราวหน้าจะมาพูดเรื่องอะไรก็คอยติดตามกันนะครับ
เเล้วเจอกันใหม่ครับ

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การเลือกซื้อสายกีต้าร์ไฟฟ้า

คราวที่เเล้วเราพูดถึงการเปลี่ยนสายกีต้าร์เเล้ว วันนี้เราจะพูดถึงการเลือกซื้อสายของกีต้าร์ไฟฟ้ากันครับ
ก่อนที่เราจะรู้จักการเล่นเทคนิคต่างๆ เราก็ควรที่จะรู้จักการเลือกซื้อสายกีต้าร์ไฟฟ้าก่อนนะครับ โดยผมจะพูดถึงสายเเต่ละชนิดซึ่งสายเเต่ละยี่ห้อเเต่ละรุ่นจะให้เสียงที่เเตกต่างกันไป เช่นสายที่ทำจาก nikle จะให้เนื้อเสียงที่ใสกว่าเเละดังกว่าซึ่งผมก็ใช้สายชนิดนี้เพราะให้เสียงที่ดังกว่า แต่ราคาจะแพงหน่อยนะครับ ส่วนสายที่เป็น stanless จะให้เสียงที่เบาเเละทุ้ม กว่า nikle จึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก ซึ่งก็เเล้วเเต่เเนวเพลงที่เล่นด้วยครับ แต่ก็มีข้อดีคือราคาถูกกว่ามาก เเละยังไม่เป็นสนิมด้วย
ปัจจุบันมีการผลิตสายกีต้าร์ด้วยวัตถุดิบต่างๆ เช่น thaitanium ซึ่งก็เคยเห็นยี่ห้อคาราบาวเขาทำมานะครับ
เเต่ก็ยังไม่เคยลอง ยังไงก็ลองเลือกใช้ตามความชอบนะครับ แล้วคราวหน้าเราจะมาพูดถึงเทคนิคเริ่มต้นการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้ากันนะครับ
สวัสดีครับ

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การใส่สายกีต้าร์

วันนี้เราจะมาพูดถึงการใส่สายกีต้าร์กัน สำหรับมือใหม่ที่ยังใส่ไม่ค่อยเป็นนะครับ
ดูๆไปบางคนก็บอกว่ามันไม่ใช้เรื่องยากอะไร ก็เเค่ใส่สาย เเต่ที่ผมสังเกตมาคนที่เล่นเป็นบางคนก็ยังใส่สายไม่ค่อยจะเป็น แบบว่าเล่นเป็นเเต่ใส่สายไม่ถูกว่างั้นเเหละครับ การใส่สายกีต้าร์ก็มีความสำคัญไม่ใช่น้อยเพราะหากใส่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เสียงกีต้าร์ของคุณเพี้ยนง่ายเล่นไม่สนุกครับ
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบการเล่นกีต้าร์มาก (แต่ไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่นะครับ) เห็ยนกีต้าร์คนอื่นอยู่มากและก็บอยมากที่เห็นว่าเขาใส่สายไม่ถูก บา่งคนใส่สายยาวเกินไป บางคนก็พันสายไม่ถูกต้องทำให้ผมรู้สึกรกหูรกตาเป็นอย่างมากครับ เพราะขนาดคนที่เล่นเป็นมาหลายปีเเท้ๆยังใส่สายไม่ค่อยจะเป็นเลยผมเลยนำวิธีใส่สายที่ถูกต้องมาฝากครับ ในรูปแบบคลิปวิดีโอเพื่อให้เข้าใจง่าย สามารถใช้วิธีนี้ใส่ได้ทั้งกีต้าร์ไฟฟ้าเเละกีต้าร์โปร่งครับ ตามลิ้งก์ข้างล่างเลยครับ

http://www.youtube.com/watch?v=8NQnI1auLrQ

ลองเข้าไปดูนะครับ สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองใส่ถูกเเล้ว คลิปนี้อาจทำให้คุณได้ความรู้มากขึ้นด้วย

ไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่นะครับ
มีเรื่องอะไรมานำเสนอก็มาติดตามด้วยนะครับ